วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

ฟอร์ดมัสแตง โฉมที่ 2


Generation ที่ 2 (รุ่นปี ค.ศ. 1974-1978)


ฟอร์ด มัสแตง โฉมที่ 2
หลังจากรถยนต์โฉมที่ 1 เริ่มขายไม่ออก เพราะขนาดเครื่องยนต์ ความแรง และราคาที่เกินพอดีของคนในยุคนั้น มัสแตง โฉมที่ 2 จึงถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กลง ราคาถูกลง ลูกสูบเล็กลง และเครื่องยนต์ใช้เชื้อเพลิงอย่างคุ้มค่ามากขึ้น เพื่อฟื้นฟูให้รถยนต์ประเภท pony car ไม่เกินกำลังของผู้บริโภคทั่วๆไปที่จะหาซื้อ
มัสแตงโฉมที่ 2 มีขนาดลูกสูบเริ่มต้นที่ 2.8 ลิตร SOHC I4 และสูงสุดที่เครื่องขนาด 4.9 ลิตร V8 ซึ่งมีราคาถูกลงมาก ทำให้เกิดการซื้อรถมัสแตงเพิ่มขึ้น หลังจากโฉมที่ 2 เปิดตัวได้ครบ 1 ปี ขอดขายมัสแตงเฉพาะโฉมที่ 2 รวมขายได้ 385,993 คัน มัสแตงโฉมนี้ มีรูปแบบบอดี้ภายนอก 2 แบบพื้นฐาน คือ coupe 2 ประตู และ hatchback 3 ประตู เวลาผ่านไป ประชาชนเริ่มต้องการซื้อรถสปอร์ตขนาดใหญ่ขึ้น บรรจุคนได้มากขึ้น ยอดขายของมัสแตงจึงเริ่มหล่นลงอีก ทางฟอร์ด จึงต้องออกแบบมัสแตง โฉมที่ 3 ออกมา

Credit : Flory, J. Kelly (2004). American Cars, 1960-1972: Every Model, Year by Year. McFarland & Company. p. 367. ISBN 9780786412730.

ฟอร์ดมัสแตง โฉมที่ 1


มัสแตง จัดเป็นรถประเภท Pony Car คือ เป็นได้ทั้งรถสปอร์ตและรถCompact ทั่วไป ซึ่งเป็นรถที่เอนกประสงค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต เป็นรถที่เล็ก แต่แรงกว่ารถเก๋งทั่วไปมัสแตง จนถึงปัจจุบันก็ยังผลิตอยู่ โดยแบ่งออกเป็ย 5 โฉม ตามช่วงเวลาได้ดังนี้
Generation ที่ 1 (รุ่นปี ค.ศ. 1964-1973)
ฟอร์ด มัสแตง โฉมที่ 1
ในโฉมนี้ ช่วงแรกๆ หลังจากเริ่มเป็นที่นิยม จะใช้เครื่องยนต์ straight-6 ขนาด 2.8 ลิตร เกียร์ธรรมดา 3 สปีด เป็นมาตรฐาน ขายในราคา 2,368 ดอลลาร์สหรัฐ (เทียบเท่าเงินประมาณ 16,000 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน) แต่ต่อมาได้มีการพัฒนาให้มีความแรงมากยิ่งขึ้น และเพิ่มขนาดเครื่องยนต์ และราคาแพงขึ้น
ในปีแรกหลังเปิดตัว รถมัสแตงมียอดขายถึง 478,812 คัน และในปีเดียวกับการเปิดตัวครั้งแรก มัสแตงถูกนำไปใช้แสดงในภาพยนตร์เจมส์ บอนด์ เรื่อง จอมมฤตยู 007 ด้วย
เครื่องยนต์รุ่นท็อปของฟอร์ด มัสแตง โฉมที่ 1 นี้ เห็นจะได้แก่ เครื่องยนต์ Super Cobra Jet V8 7.0 ลิตร 375 แรงม้า ซึ่งถือเป็นแรงม้าที่สูงมากเมื่อเทียบกับรถอื่นๆ ในยุคเดียวกัน ซึ่งเครื่องยนต์รุ่นท็อปนี้ ถูกผลิตใช้เป็นครั้งแรกในรุ่นปี ค.ศ. 1971 รถมัสแตงในโฉมนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นรถ 2 ที่นั่ง ตัวถัง 3 แบบ convertible , hardtop , fastback 2 ประตู คละกันไป แต่ในช่วงปลายๆ ของโฉม รถประเภท pony car ขายไม่ดี เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มไม่สนใจรถยนต์ประเภทนี้ เพราะราคาแพงเกินไป จึงเริ่มหันไปซื้อรถที่ราคาถูกและประหยัดกว่า ยอดขายฟอร์ดมัสแตงจึงลดลง ทางฟอร์ดจึงเร่งผลิตรถโฉมที่ 2 ออกมา

Credit : Flory, J. Kelly (2004). American Cars, 1960-1972: Every Model, Year by Year. McFarland & Company. p. 367. ISBN 9780786412730.


วันอาทิตย์ที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2555

ประวัติ Ford Mustang

Ford Mustang

40 ปี ก่อนหน้านี้ ฟอร์ด มัสแตง ได้ถือกำเนิดขึ้นในโลกยานยนต์ ถือเป็นรถสปอร์ต ที่สามารถตอบสนองความต้องการของนักขับขี่ด้วยราคาที่ไม่สูงจนเกินไป ด้วยเหตุนี้ Mustang คันเเรกจึงได้เปิดตัวสู่สาธารณชนในปี 1964 ในงาน New York World Fair ด้วยรูปลักษณ์ที่โดดเด่นและสมรรถนะที่ดีเยี่ยมทำให้เป็นที่ถูกใจของนักขับ ชาวอเมริกันเป็นจำนวนมากและนับตั้งเเต่นั้นมา Mustang ก็เข้ามามีบทบาทในโลกยานยนต์มากขึ้นได้ฉายาว่าเป็นสุดยอดรถ Muscle Car ตั้งเเต่อดีตจนถึงเจเนอเรชั่นล่าสุด Mustang 2005 โดยหนังสือรถยนต์ ชื่อดังระดับโลกอย่าง Car&Driver ที่เลือก Mustang เป็น 1 ใน 10 รถยอดเยี่ยม (10 BEST) ปี 2005 โดยจัดให้เป็น "Best Muscle Car"
ฟอร์ดได้พัฒนา Mustang 2005 ขึ้นมาใหม่หมด ลบโครงสร้างเดิมเเล้วเปลี่ยนมาใช้การออกแบบใหม่ทั้งหมดมีเป้าหมายให้เป็น Mustang ที่ทำความเร็วได้สูงขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้นและแน่นอนว่าจะต้องดูดีที่สุดเมื่อเทียบกับรุ่นที่ผ่านมา ด้วยรูปทรงที่ดูกำยำ ด้วยการ ออกแบบเหมือนกับมีมัดกล้ามรอบคันจากตัวถังรถหรือซุ้มล้อที่โป่งออก ปราดเปรียวด้วยรูปทรงรถที่มีเส้นสายเฉพาะตัว ด้านหน้ายาวและหลังคาลาดลง ด้านท้ายที่เป็นเอกลักษณ์มาตลอดกว่า 40 ปี ซึ่งทำให้ดูทรงพลังและพร้อมจะทะยานไปข้างหน้าแม้ในขณะที่หยุดนิ่ง เพิ่มความดุดันด้วยไฟท้ายแบบ 3 ดวง ความยาวฐานล้อที่ถูกยืดออกมาอีก 6 นิ้ว นอกจาก จะทำให้รูปลักษณ์ภายนอกดูปราดเปรียวทรงพลังมากขึ้นแล้ว ยังเพิ่มพื้นที่ภายในห้องโดยสาร นั่งสบายมากขึ้น มีพื้นที่วางขา พื้นที่ว่างช่วงไหล่ และเหนือศีรษะ มากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ Mustang 2005 ยังเป็นรุ่นแรกของวงการรถยนต์ ที่ผู้ขับขี่สามารถ เลือกโทนสีของไฟหน้าปัดได้เอง เพียงกดปุ่มและเลือกสีไฟที่ต้องการจาก 125 สีที่มีให้เลือกตามอารมณ์ บุคลิกหรือกิจกรรมที่ทำและพวงมาลัย 3 ก้านจับกระชับมือ
Mustang 2005 เป็นรถขับเคลื่อนล้อหลัง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักนิยมสปอร์ต คาร์ เเต่มีเครื่องยนต์ 2 ขนาดให้กับมัสแตง คือ วี 6 4.0 ลิตร ที่ให้กำลังสูงสุด 210 แรงม้า และ วี 8 4.6 ลิตร ที่ให้ กำลังสูงสุด 300 แรงม้า ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 40 แรงม้าเมื่อเทียบกับรุ่น 2004 และเพิ่มขึ้นถึง 50% จากรุ่นปี 1964 มี 2 ตัวถังให้เลือกคือ คูเป้และเปิดประทุน เกียร์มีทั้งเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และเป็นครั้งแรกที่ฟอร์ดได้พัฒนาเกียร์ออโตเมติก 5 สปีด ใน Mustang ที่ทำให้ขับได้อย่างสนุกสนานกับความทรงพลังของเครื่องยนต์ใหม่ที่เรียกพลัง ได้ทันใจ พร้อมทั้งให้ความประหยัดสูงสุดเมื่อขับขี่ทางไกลระบบช่วงล่างด้านหน้าแบบ แมคเฟอร์สัน สตรัทรุ่นใหม่ พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลังเป็นแบบคานแข็งที่เพิ่มประสิทธิภาพในการทรงตัว เกาะถนนเป็นเยี่ยมแม้ในขณะ เข้าโค้งด้วยความเร็วสูง ดิสก์เบรก 4 ล้อ เบรกเอบีเอส ยางขนาด 235/55 ขอบ 17 นิ้ว เพิ่มความมั่นใจให้กับทุกการขับขี่
นอกจากนี้ ฟอร์ดยังได้ติดตั้งระบบความปลอดภัยส่วนบุคคล หรือ Personal Safety System? ที่รวมสุดยอดเทคโนโลยีด้านความปลอดภัยเพื่อให้ความอุ่นใจมั่นใจโดยเฉพาะ การปกป้องผู้ขับขี่และผู้โดยสารในกรณีการชนด้านหน้า ด้วยถุงลมนิรภัยคู่หน้าที่สามารถพองตัว ได้ถึง 2 แบบ คือในกรณีที่ชนอย่างรุนแรงและไม่รุนแรงมากนักที่ชนอย่างรุนแรงและไม่รุนแรง มากนัก
อ้างอิง
 http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=1a47bdda18ab4952

วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

รถสปอร์ตยอดนิยม Ford Mustang



ฟอร์ด มัสแตง (Ford Mustang) เป็นรถสปอร์ตยอดนิยมของแถบอเมริกาและยุโรปบางส่วน เปิดตัวครั้งแรกในปี ค.ศ. 1964 มัสแตงได้รับความนิยมสูงมาก ในปีเดียวกับการเปิดตัวครั้งแรก รถมัสแตง ถูกนำไปใช้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง จอมมฤตยู 007 มัสแตงมีจุดเด่นในความที่เป็นรถที่ ฝาครอบเครื่องยนต์ด้านหน้าจะยาวเมื่อเทียบสัดส่วนกับรถทั่วไป
มัสแตง มียอดขายเฉลี่ย 1 ล้านคัน ทุกๆ 18 เดือน (สูสีกับ โตโยต้า โคโรลล่า หรือที่คนไทยรู้จักในชื่อ "อัลติส") จากอดีตถึงปัจจุบัน ซึ่งการที่รถสปอร์ตที่มีราคาแพงกว่ารถเก๋งเล็กๆลิบลิ่ว กลับมียอดขายใกล้เคียงกับรถเก๋งขนาดเล็กราคาถูกยอดนิยมของญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพและความนิยมในมัสแตง
มัสแตง จัดเป็นรถประเภท Pony Car คือ เป็นได้ทั้งรถสปอร์ตและรถCompact ทั่วไป ซึ่งเป็นรถที่เอนกประสงค์สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถสปอร์ต เป็นรถที่เล็ก แต่แรงกว่ารถเก๋งทั่วไป